ชนิดข้อมูล
ชนิดของข้อมูล (Data Type)
ข้อมูลพื้นฐานของไพธอนแบ่งออกเป็น 6 ชนิด ตัวเลข ,สายอักขระ, ลิงต์, ทูเพิล ,ดิกชันนารี , และเซต โดยแต่ละประเภทแตกย่อยข้อมูลออกเป้นประเภทต่างๆ ดังนี้
ข้อมูลชนิดตัวเลข
ประกอบด้วย 4 ประเภท
- ข้อมูลตรรกะ (Boolean)
- จำนวนเต็ม (Integer)
- จำนวนจริง (Floating Point)
- ข้อมูลชนิดสตริง (String)
ข้อมูลตรรกะ (Boolean)
มีค่าข้อมูล 2 สถานะ คือ จริง (True หรือ 1) และเท็จ (False หรือ 0) เท่านั้น
การประกาศตัวแปร
|
ผลลัพธ์
|
x = True
|
กำหนดให้ x เท่ากับ จริง
|
y = True
|
กำหนดให้ y เท่ากับ เท็จ
|
print(x)
|
จริง
|
print(y)
|
เท็จ
|
แนะนำให้ผู้อ่านเปิดโปรแกรม Python IDLE ขึ้นมา และพิมพ์โค้ดตามตารางเื่อตรวจสอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากตารางข้างต้น ให้ผู้อ่านป้อนข้อมูลทีละบรรทัด จะได้ผลลัพธ์ดังรูป
จำนวนเต็ม (Integer : int)
ค่าของข้อมูลเป็นไปได้ทั้งจำนวนเต็มลบและเต็มบวก เช่น -5 , 0 หรือ 10 เป็นต้น รวมไปถึง เลขฐานแปด (Octal) และเลขฐานสิบหก (Hexadecimal)
การประกาศตัวแปร int
|
ผลลัพธ์
|
x = 20
|
กำหนดให้ x เท่ากับ 20
|
y = -10
|
กำหนดให้ y เท่ากับ -10
|
octal = 0o25
|
กำหนดให้ octal เท่ากับ 0o25 ฐานแปด หรือ 21 ฐานสิบ
|
Hex = 0x18
|
กำหนดให้ Hex เท่ากับ 0x18 ฐานสิบหก หรือ 24 ฐานสิบ
|
print(x,y,octal,hex)
|
20,-10,21,24
|
oct(octal)
|
พิมพ์เลขฐานแปด เท่ากับ 0o25
|
hex(Hex)
|
พิมพ์เลขฐานสิบหก เท่ากับ 0x18
|
จำนวนจริง
คือข้อมูลที่เป็นตัวเลขที่ประกอบด้วยจุดทศนิยมเป้นได้ทั้งบวกและลบ เช่น -10.00,0.0,20.0,32.3+e18 และ 7.0-E12 เป็นต้น
ประกาศตัวแปร float |
ผลลัพธ์ |
x = 10.0 |
กำหนดให้ x เท่ากับ 10.0 |
y = 0.0 |
กำหนดให้ y เท่ากับ 0.0 |
print(x) |
-10.0 |
print(y) |
0.0 |
ข้อมูลชนิดสตริง หรือสายอักขระ (String)
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
อักขระที่มีเพียงตัวเดียว (Character : char) นิยมเขียนในรูปเครื่องหมาย ‘’ (single quote) เช่น
อักขระที่เขียนเรียงติดกันมากกว่า 1 ตัว เรียกว่า สายอักขระ (String) นิยมเขียนในรูปเครื่องหมาย “” (Double Quote) เช่
ประกาศตัวแปรสตริง
|
ผลลัพธ์
|
x = ‘A’
|
กำหนดให้ x เท่ากับ ‘A’
|
y = “Python”
|
กำหนดให้ y เท่ากับ “Python”
|
print(x)
|
A
|
print(y)
|
Python
|
print(x[0])
|
A
|
print(y[2])
|
y
|
** การแสดงผลข้อมูลสตริงเฉพาะตำแหน่ง สามาถทำได้ง่ายๆ โดยการระบุตำแหน่งที่จัดเก็บข้อมูล (ตัวชี้ หรือ Index) ร่วมกับเครื่่องหมาย [...] ดังตัวอย่างตามตารางข้างต้น
ข้อมูลชนิดลิสต์ (List)
เป็นข้อมูลที่มีรูปแบบการจัดเก็บแบบชุดและลำดับ ลิสต์สามารถเก็บข้อมูลได้หลายค่าที่แตกต่างกันภานใน ตัวแปรเดียว โดยมีตัวชี้ข้อมูล (Index) ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้
ประกาศตัวแปรลิงต์
|
ผลลัพธ์
|
x = []
|
กำหนดให้ x เท่ากับลิสต์ว่าง
|
y = [1,2,3,”Hello”]
|
กำหนดให้ y มีสมาชิกประกอบด้วย 1,2,3,”Hello”
|
z = [y,2,5]
|
กำหนดค่าลิสต์ y ให้ลิงต์ z (ลิสค์ซ้อน)
|
print(x)
|
[ ]
|
print(y)
|
[1,2.5,”Python”]
|
print(x[3])
|
“Hello”
|
print(y[1])
|
2
|
จากตัวอย่าง ตัวแปรลิสต์มีลักษณะการเก็บข้อมูลคล้าย “ลิ้นชัก” หรือตู้เป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละชั้นจะเก็บสิ่งของไว้ การนำสิ่งของออกมา ทำได้โดยการดึงลิ้นชั้นที่ต้องการออกมา แต่ละชั้นกำกับด้วยหมายเลข 0,1,2,3,... ตามลำดับ ผู้ใช้สามารถดึงชั้นใดก่อนก็ได้
ข้อมูลเชนิดทูเพิล (Tuple)
คล้ายกับลิสต์ แต่มีข้อแตกกต่างคือ ทูเพิลจะใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (immutable) กล่าวคือ เมื่อกำหนดค่าข้อมูลให้กับตัวแปรทูเพิล ข้อมูลดังกล่าวจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าในภายหลังได้
ประกาศตัสแปรทูเพิล
|
ผลลัพธ์
|
x = ()
|
กำหนดให้ x เท่ากับทูเพิลที่มีค่าว่าง
|
y = (100,krubom,men)
|
กำหนดให้ทูเพิล y มีสมาชิกเท่ากับ 100,”krubom”,’men’
|
z = (10,[1,2],y)
|
กำหนดให้ทูเพิล z มีสมาชิกเท่ากับ 10, ลิสต์ และทูเพิล y
|
print(x)
|
( )
|
print(y)
|
(5, [1,2],(100,’krubom’,’men’))
|
print(z)
|
[1,2]
|
การแสดงผลข้อมูลของทูเพิลบางส่วน สามารถทำได้เหมือนกับ ตัวแปรลิสต์ เช่น y[0] เท่ากับ 100, y[1] เท่ากับ ‘krubom’ เป็นต้น
ข้อมูลชนิดดิกชินนารี (Dictionary)
คือรูปแบบการเก็บข้อมูลที่ประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ Key และ value ซึ่งคั่นด้วยเครื่องหมายโคล่อน : key:value
โดยคีย์ทำหน้าที่เป็นตัวชี้ (index) ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ คีร์กับข้อมูลจะต้องมีความสัมพันธ์กัน และที่สำคัญ คีจะต้องไม่ซ้ำกัน การเข้าถึงข้อมูลสามารถเข้าถึงได้รวดเร็ว เพราะข้อมูลถูกทำในดิกชันนารีไว้ในคีย์(key) นั่นเอง
ดอกชันนารีจะใช้เครื่องหมาย {.....} แสดงโครงสร้างการจัดเก็บข้อมูล เช่น {1:”home”,2:10,3:”krubom”} เป็นต้น
ประกาศตัวแปรดิกชันนารี
|
ผลลัพธ์
|
x = { }
|
กำหนดให้ x เท่ากับดิกชันนารี
|
y = {1:”home”,2:”name”,3:”price”}
|
กำหนดให้ดิกชันนารี y มีคู่สมาชิกเท่ากับ 1:”home”,2:”name”,3:”price”
|
print(x)
|
{ }
|
print(y)
|
{1:”home”,2:”name”,3:”price”}
|
print(y[1])
|
home
|
print(y[3])
|
price
|
ข้อมูลชนิดเซต (Set)
กลุ่มข้อมูลชนิดต่างๆ ที่สามารถกำหนดสมาชิก (Element) ได้ชัดเจน โดยข้อมูลสมาชิกไม่จำเป็นต้องจัดเก็บเรียงตามลำดับ สมาชิกแต่ละตัวต้องไม่ซ้ำกันเลย และข้อมูลจะต้องจัดเก็บแบบถาวร โดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง เซตนิยมเขียนอยู่ในรูปแบบเครื่องหมาย {....} เช่น {จันทร์,อังคาร,พุทธ,พฤหัสบดี,ศุกร์,เสาร์,อาทิตย์,}
ประกาศตัวแปรเซต
|
ผลลัพธ์
|
x = set()
|
กำหนดให้ x เท่ากับเซตว่าง
|
y = {1,2,3,4,5,6,6}
|
กำหนดให้เซต y มีสมาชิกเท่ากับ {1,2,3,4,5,6} สมาชิกที่ซ้ำกันจะถูกตัดออก
|
print(x)
|
set()
|
print(y)
|
{1,2,3,4,5,6}
|