5 สัญญาณว่า Wi-Fi ถูกแฮก พร้อมวิธีรับมือก่อนข้อมูลจะรั่ว

5 สัญญาณว่า Wi-Fi ของคุณอาจถูกแฮก – พร้อมวิธีรับมืออย่างปลอดภัย
เร้าเตอร์ Wi-Fi คือประตูหลักสู่โลกออนไลน์ของคุณ และถ้ามันถูกแฮกเมื่อไหร่ นั่นหมายถึงแฮกเกอร์อาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างได้แบบไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการขโมยรหัสผ่าน เน็ตช้าผิดปกติ หรือถูกติดมัลแวร์
มาดู “5 สัญญาณเตือน” ที่บอกว่า Wi-Fi ของคุณอาจถูกแฮก พร้อม “4 วิธีรับมือ” ที่ควรรีบทำทันที
สัญญาณว่า Wi-Fi อาจถูกแฮก
1. เบราว์เซอร์พาไปเว็บแปลก ๆ
เว็บไซต์ที่คุณพิมพ์ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะเว็บโฆษณาหรือเว็บน่าสงสัย – นี่คือสัญญาณของ DNS Hijacking
2. อินเทอร์เน็ตช้าลงผิดปกติ
หากเน็ตช้าทั้งที่ไม่มีใครใช้เยอะ อาจเป็นเพราะมีอุปกรณ์ของแฮกเกอร์กำลังใช้งานอยู่เบื้องหลัง
3. รหัสผ่าน Wi-Fi ถูกเปลี่ยนเอง
อยู่ดี ๆ เข้าระบบไม่ได้ รหัสผ่านใช้ไม่ได้ ทั้งที่ไม่ได้เปลี่ยนเองเลย แสดงว่ามีคนแอบเปลี่ยนมันเพื่อควบคุมเครือข่ายแทนคุณ
4. พบอุปกรณ์แปลกในระบบ
ลองตรวจสอบรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ หากพบอุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก แสดงว่ามีผู้ไม่หวังดีแอบใช้ Wi-Fi อยู่
5. พบโปรแกรมหรือแอปแปลก ๆ ในเครื่อง
หากมีแอปที่คุณไม่เคยติดตั้ง โผล่ขึ้นมาหลายเครื่อง หรือปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตพุ่งขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเครือข่ายของคุณโดนมัลแวร์เล่นงานแล้ว
วิธีรับมือทันทีเมื่อรู้ว่า Wi-Fi ถูกแฮก
1. ตัดการเชื่อมต่อและรีเซ็ตเร้าเตอร์
ถอดปลั๊กหรือปิดเครื่อง แล้วกดปุ่มรีเซ็ตค้างไว้ 15-30 วินาที เพื่อคืนค่าโรงงานทั้งหมด
2. เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่
ตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก และไม่ซ้ำกับรหัสเก่า รวมถึงเปลี่ยนชื่อเครือข่าย (SSID)
3. สแกนมัลแวร์ในอุปกรณ์ทุกเครื่อง
ใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสสแกนอุปกรณ์ทุกเครื่องในบ้าน แล้วลบสิ่งแปลกปลอมออกให้หมด
4. อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเร้าเตอร์
เข้าเว็บไซต์ของผู้ผลิต ตรวจสอบเวอร์ชันล่าสุด แล้วอัปเดตเพื่อปิดช่องโหว่ที่อาจโดนเจาะ
วิธีป้องกัน Wi-Fi ไม่ให้ถูกแฮกอีก
-
เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้นของเร้าเตอร์ทันทีหลังซื้อ
-
เปิดใช้ระบบเข้ารหัส WPA2 หรือ WPA3
-
ตั้งชื่อเครือข่ายให้ไม่บ่งบอกตัวตน
-
เปิดใช้ไฟร์วอลล์ และปิดฟีเจอร์ WPS
-
แยกเครือข่ายแขก (Guest Network) ออกจากเครือข่ายหลัก
-
อัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างสม่ำเสมอ
-
พิจารณาใช้ VPN เพื่อความเป็นส่วนตัว